27.9.08

"คมเฉือนคม" กับผู้ชิงชัยประธานาธิบดีสหรัฐ

ค่ำวันศุกร์ตามเวลาสหรัฐ เช้าวันเสาร์ที่ 27 กันยายนตามเวลาในบ้านเรา ก็ได้เห็นการเชือดเฉือนทางวาจา และวัดกึ๋น ของสองผู้ท้าดวลเป็นประธานาธิบดีสหรัฐ

เป็นการออกทีวี แสดงวิสัยทัศน์ โต้วาทีสดๆเป็นครั้งแรก ให้ผู้ชมในสหรัฐและทั่วโลกได้ชมกันค่ะ

แต่ละฝ่ายต่างไม่ยอมลดราวาศอก ในการสู้ศึกด้วยวาจา และความคิด

ทั้งวุฒิสมาชิกบารัก โอบามา ผู้สมัครจากพรรคเดโมแครต และวุฒิสมาชิกจอห์น แมคเคน จากพรรครีพับลิกัน

สามสิบนาทีแรกของการโต้วาที ทั้งสองให้ความสำคัญกับการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ แทนที่จะเป็นเรื่องนโยบายต่างประเทศ

อีกคมหนึ่งในการโต้วาที มาจากผู้ดำเนินรายการฝีปากกล้า จิม เลอห์เรอร์ จาก PBS ของสหรัฐ ที่เป็นผู้ยิงคำถาม และมีอยู่ช่วงหนึ่งถึงกับถามวุฒิสมาชิกทั้งสองคนว่า "เห็นโต้วาทีกันไปมาไม่เห็นมีใครพูดได้ชัดเจนเลยว่ามีวิสัยทัศน์ที่จะแก้ปัญหาวิกฤติเศรษฐกิจกันอย่างไร"

ตรงไปตรงมา ดีค่ะ สำหรับการวัดกึ๋นของทั้งผู้โต้วาที และผู้ดำเนินรายการในครั้งนี้

มองดูแล้วการเมืองไทยคงยังอีกไกล คนไทยจะมีโอกาสได้เห็นการโต้วาทีแบบเนื้อๆ ที่คุยกันแต่เรื่องเนื้อหาล้วนๆบ้างไหมหนอ ถ้าจะมีโอกาสบ้างก็น่าจะเป็นฤกษ์งามยามดีของการพัฒนาทั้งคุณภาพนักการเมือง ผู้ชม และ คุณภาพของสื่อไปพร้อมๆกันค่ะ

24.9.08

นายกรัฐมนตรีใหม่ และ คณะรัฐมนตรีใหม่ !?!


มีโผออกมามากมายหลายโผ เรื่องคณะรัฐมนตรีใหม่ หลังจากที่ได้นายกรัฐมนตรีสมชาย วงศ์สวัสดิ์ เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 26 ไปเรียบร้อยแล้ว
วันนี้ก็น่าจะได้ทราบกันนะคะ
ถ้าตามความเคลื่อนไหวก็จะได้เห็นว่ารายชื่อโผ และการต่อรองของแต่ละกลุ่ม แต่ละค่าย ภายในพรรคพลังประชาชน และพรรคร่วมรัฐบาล เป็นไปอย่างรวดเร็ว หลายชั้น และไหนยังจะมีแรงกดดันจากภายในบ้านของนายกรัฐมนตรีเอง แต่แรงกำกับที่ชัดเจนน่าจะมาจาก "นายใหญ่" ที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ
แต่ไม่ว่าจะเป็นพรรคไหน กลุ่มไหนเข้ามา ก็หวังว่าจะเข้ามาทำงานกันอย่างเต็มที่ เพราะตอนนี้แรงกดดันจากภายนอกพรรคเองก็ไม่น้อยค่ะ
ยิ่งมีกระแสพุดถึงการปฏิรูปการเมือง และการเมืองใหม่ด้วยแล้ว รัฐบาลก็คงจะดูดายไม่ได้
ในขณะที่ภาคประชาชนก็ต้องตรวจสอบการทำงานของรัฐบาลกันอย่างหนักหน่วงมากขึ้น
ไม่เฉพาะประเทศไทยเท่านั้นนะคะที่กำลังเจอการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง เพราะว่าที่มาเลเซีย พรรคฝ่ายค้านที่นำโดยนายอันวาร์ อิบราฮิม ก็กำลังลุ้นอยู่ว่าจะเปลี่ยนข้างดึง สส ฝ่ายรัฐบาลไปร่วมได้มากขนาดไหน ขณะที่นายกรัฐมนตรีบาดาวี ของมาเลเซียก็เริ่มจะถอดใจ ร่ำว่าจะลงจากตำแหน่งก่อนสิ้นปีนี้
การเมืองไทย การเมืองโลก กำลังปรับเปลี่ยน ไปพร้อมๆกับวิถีเศรษฐกิจโลก ที่กำลังถึงจุดพลิกผันอย่างแรงเช่นกัน จะตัดไทยออกจากระบบเศรษฐกิจ และ การเมืองโลกไม่ได้แน่นอนค่ะ อยู่ที่ว่าไทยเองจะปรับตัวไปทิศไหน และพร้อมจะปรับตัวแค่ไหนมากกว่า

16.9.08

916: D-Day ของ อันวาร์ อิบราฮิม



วันนี้วันดีเดย์ของนายอันวาร์ อิบราฮิม ผู้นำพรรคฝ่ายค้านของมาเลเซีย ณ วินาทีนี้ คงไม่มีชาวมาเลเซียคนไหนไม่รู้จัก 916 หรือ วันที่ 16 เดือน กันยายน (เดือน 9)

เป็นดีเดย์ ที่นายอันวาร์บอกว่าจะยึดอำนาจมาจากรัฐบาลให้ได้ ตอนนี้เรียกได้ว่าเป็นขาขึ้นของผู้นำฝ่ายค้านมาเลเซียค่ะ ที่ได้เสียงสนับสนุนหนักแน่นมากขึ้น

แต่กลยุทธการดึง สส มาจากพรรคแนวร่วมรัฐบาลนี่ก็เด็ดค่ะ น่าจะเด็ดดวงพอๆกันระหว่าง พรรครัฐบาลกับพรรคฝ่ายค้าน เพราะพอรัฐบาลรู้ว่ากำลังจะโดน "ดูด" ก็ส่ง สส ฝ่ายตนไปดูงานถึงไต้หวัน งานนี้ฝ่ายอันวาร์ก็ไม่ลดละ ส่ง สส ไปหว่านล้อมถึงไต้หวัน เพื่อให้โอนเอียงมาทางฝ่ายค้านให้ได้

นายอันวาร์ โหมโฆษณาไปแล้วว่าถ้าได้ สส จากพรรคแนวร่วมรัฐบาลมาถึง 30 คนก็พอแล้วที่จะโค่นรัฐบาลได้

ช่างมั่นใจเหลือเกิน! แต่นักวิเคราะห์ของมาเลเซียเองก็มองว่า อันวาร์ไม่มีอะไรจะเสียหรอก เพราะเขาไม่ได้กดดันตนเอง ถ้าวันดีเดย์ 916 ทำไม่ได้อย่างที่ว่า ก็ค่อยๆทำต่อไป ต่อไป เรื่อยๆ เดี๋ยวก็ต้องได้สักวัน

พรรค Umno ของนายกรัฐมนตรีอับดุลเลาะห์ บัดดาวี ก็คงจะหนาวๆร้อนๆค่ะงานนี้ เพราะไม่รู้ว่าจะถูก "ดูด" สำเร็จเมื่อไร

หรือว่าจะต้องเริ่มนับถอยหลังกันแล้วสำหรับนายกรัฐมนตรีบัดดาวี ?!?

ดูเพื่อนบ้านแล้วก็สะท้อนใจอะไรบางอย่าง กับคำว่า "การเมือง"

การเมืองไทยเองก็เริ่มนับถอยหลังแล้วนะคะ วันพุธ ( 17 กันยายน) ก็จะได้เห็นอีก "โฉมหน้า" ของเกมการเมืองในสภาค่ะ รักใคร ชอบใคร เชียร์ใคร ก็อย่าลืมติดตาม ทั้งพรรคพลังประชาชน พรรคร่วมรัฐบาล และ พรรคประชาธิปัตย์ ชั้นเชิงน่าจะแพรวพราวกันไม่น้อยค่ะ



10.9.08

who's that guy????


เครื่องหมายคำถามหลายๆคำถาม ว่าใครจะเป็นนายกรัฐมนตรีคนถัดไป
หลังจากตุลาการศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้สภาพการเป็นนายกรัฐมนตรีของนายสมัคร สุนทรเวช สิ้นสุดลง ในกรณีเป็นพิธีกรรายการชิมไปบ่นไปว่าขัดต่อรัฐธรรมนูญมาตรา 267

เชื่อว่าหลายท่านคงรู้รายละเอียดกันแล้วนะคะ ตอนนี้ก็ต้องเฝ้าดูความเคลื่อนไหวกันต่อไปอย่างใกล้ชิด

วันนี้ผู้สื่อข่าวก็เฝ้าหน้าจอทีวีกันตั้งแต่ก่อนบ่ายสองโมง แต่ก็ต้องรอกันไปเรื่อยๆจนถึงเวลา 15.45 น. ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญก็เริ่มอ่านคำวินิจฉัยค่ะ

หนึ่งชั่วโมงเต็มๆกับการรับฟังคำวินิจฉัย เมื่อฟังแล้ว ได้รับทราบผลแล้วว่าตุลาการลงมติ 9:0 ว่านายสมัคร สิ้นสุดความเป็นนายกรัฐมนตรีแล้ว ก็ต้องปรับกระบวนยุทธการรายงานของที่นี่ทีวีไทยกันทันทีค่ะ

ที่จริงจะว่าไปผลการตัดสินก็ไม่ได้เหนือความคาดหมายนัก เพราะพอจะได้รับทราบกันไปแล้วจากหน้าหนังสือพิมพ์ว่าแนวทางการวินิจฉัยจะเป็นอย่างไร

แต่เรื่องการลงมติอย่างนี้ก็ต้องรอฟังวันจริงค่ะ ว่าผลจะเป็นเอกฉันท์หรือเปล่า เพราะคำตัดสินอาจจะออกมาเป็น 8:1 หรือ 7:2 หรือ 6:3 อย่างที่นักวิเคราะห์พูดกันล่ะคะว่าอะไรก็เกิดขึ้นได้ในการเมืองไทย

ผู้สื่อข่าวต่างชาติจากบีบีซี บอกว่าตอนนี้มึนงงกับสถานการณ์การเมืองไทย เพราะไม่เข้าใจว่าก็ศาลรัฐธรรมนูญตัดสินไปแล้วว่านายสมัคร สิ้นความเป็นนายกรัฐมนตรีไปแล้ว ทำไมถึงยังมีความพยายามดึงดันเพื่อจะให้นายสมัครกลับมาอีกครั้ง แสดงว่าไม่มีความเคารพต่อคำตัดสินของศาลเลยหรือ ????? ตอนนี้ให้วิเคราะห์ยังมองไม่ออกว่าผลจะออกมาเป็นอย่างไร

งานนี้ต้องติดตามความเคลื่อนไหวการเมืองไทยกันต่อค่ะ โดยเฉพาะจุดยืนของพรรคพลังประชาชน พรรคร่วมรัฐบาล และพรรคฝ่ายค้าน

อีกทางเลือกหนึ่งที่ไม่อาจมองข้ามในยามนี้ก็คือการจัดตั้งรัฐบาลแห่งชาติ

ไม่แน่นะคะ ถ้าตัดความรู้สึกแบ่งขั้วแยกข้างออกไปได้ แนวทางรัฐบาลแห่งชาติก็อาจจะช่วยแก้วิกฤติวุ่นวายทางการเมืองกันได้สักที

7.9.08

"ชัย ราชวัตร" : การเมืองยิ่งวุ่น สมองยิ่งแล่น



คลิ๊กชม VDO clip บทสัมภาษณ์คุณ "ชัย ราชวัตร" ตัวจริงเสียงจริงของ นักวาดการ์ตูนชื่อดัง กับคอลัมน์ "ผู้ใหญ่มา กับทุ่งมหาเมิน" หน้า 5 หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ คุณชัย วาดมาแล้ว 30 ปี และจะทำงานต่อไป ภาพวาดของคุณชัย เป็นข้อมูลสะท้อนประวัติศาสตร์การเมืองที่เกิดขึ้นในไทยได้เป็นอย่างดีค่ะ


ที่สำคัญคุณชัยบอกด้วยว่า จุดยืน ของตนคืออะไร และสำคัญอย่างไรกับความเป็นมืออาชีพ

6.9.08

อีกมุมของ สนธิ ลิ้มทองกุล

สัปดาห์นี้การเมืองเปลี่ยนแปลงมากมายเหลือเกินค่ะ ตั้งแต่การประกาศใช้พระราชกำหนดฉุกเฉินเมื่อวันที่ 2 กันยายน พอถึงวันศุกร์ที่ 5 กันยายน มีความพยายามที่จะแก้ปัญหาอีกระลอก โดยประธานวุฒิสภานายประสพสุข บุญเดช จะเป็นคนกลางในการไกล่เกลี่ยกับฝ่ายที่เกี่ยวข้อง

สัปดาห์ที่แล้วดิฉันได้ไปสัมภาษณ์คุณสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย หลายท่านคงจะได้ชมบทสัมภาษณ์ผ่านทางที่นี่ทีวีไทยไปแล้วเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 28 สิงหาคมค่ะ

ในบล๊อกมีอีกแง่มุมของคุณสนธิ ที่ดิฉันได้ถามถึงเรื่องการทำใจ กับแนวทางการต่อสู้ของพันธมิตร คลิ๊กวีดีโดคลิปดูค่ะ มีบรรยากาศการชุมนุมด้วย

ตอนนี้ต้องติดตามว่าทางฝั่งพันธมิตรและรัฐบาลจะยอมถอยบ้างมั้ย เพื่อเปิดให้มีการเจรจากัน ตามแนวทางที่หลายฝ่ายหวังว่าจะเกิดขึ้นได้โดยปราศจากความรุนแรง

เป็นอีกบทหนึ่งของประวัติศาสตร์การเมืองไทยค่ะ

2.9.08

สนามสื่อ ใน สนามการเมืองแบบดุดุ

เป็นสัปดาห์ที่ต้องจารึกในประวัติศาสตร์การเมืองไทยค่ะ กับการบุกยึดทำเนียบรัฐบาลของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยตั้งแต่วันที่ 26 สิงหาคม

วันอังคารที่ 2 กันยายน ก็จะครบ 7 วัน

ตอนนี้หลายฝ่ายต่างก็คาดเดากันไปต่างๆนานา ว่าจะจบลงอย่างไร แต่โดยมากไม่อยากเห็นความรุนแรง

ช่วงนี้สื่อมวลชนทำงานกันยากขึ้น เป็นความท้าทายในยามนี้

เมื่อวันพุธที่แล้วนายกรัฐมนตรีสมัคร สุนทรเวช บอกว่าถึงเวลาแล้วที่สื่อมวลชนต้องเลือกข้าง จะเป็นกลางไม่ได้

พอถึงวันอาทิตย์ในรายการสนทนาประสาสมัคร นายกรัฐมนตรีบอกว่าสื่อมวลชนต้องเลือกรายงานเกี่ยวกับฝ่ายหนึ่ง และอีกครึ่งหนึ่งต้องให้เวลากับรัฐบาลด้วย แสดงว่านายกรัฐมนตรีกำลังหมายความว่าสื่อต้องเป็นกลาง!?!

ช่วง 6 วันที่ผ่านมา ทีมงานต้องอยู่กันดึกๆกว่าปกติติดต่อกันเกือบทั้งสัปดาห์ค่ะ และก็หนีไม่พ้นที่จะได้ช่วยกันรับโทรศัพท์จากทางบ้านที่โทรเข้ามาแสดงความคิดเห็น

ชัดเจนว่า ผู้ดูมักจะมองว่าทีวีไทยเลือกข้าง แต่ที่แปลกและอาจจะไม่น่าแปลกในคราวเดียวกันคือ ผู้ดูแบ่งออกเป็นสองฝ่ายค่ะ คือฝ่ายที่บอกว่าทีวีไทยเข้าข้างพันธมิตร และฝ่ายที่บอกว่าทีวีไทยเข้าข้างรัฐบาล

ทั้งสองฝ่ายต่างไม่พอใจ ทีวีไทย !!!

นอกจากจะต้องผ่านการตรวจสอบตลอดเวลาจากผู้ดูแล้ว การทำงานระหว่างทีมงานก็ใช่ว่าจะราบรื่นค่ะ

เพราะทุกฝ่ายต่างตรวจสอบ ระแวดระวังกันอยู่ในที ในประเด็นที่นำเสนอ

การทำงานทีวี ที่ต้องอาศัยการทำงานร่วมกันอย่างยิ่งยวด สถานการณ์ที่เกิดขึ้นนี้จึงเป็นบททดสอบความคิด การทำงาน การปรึกษาหารือ และการประสานงานร่วมกันของทีมงานทุกฝ่าย ทุกภาคส่วน อย่างหนักหน่วงจริงๆค่ะ

แน่นอนค่ะมีการกระทบกระทั่งกันทางความคิด

ดิฉันคิดว่า จุดยืนแต่ละคนมีได้ และไม่น่าจะมีการบังคับให้ต้องเห็นเหมือนกัน เพราะความแตกต่างหลากหลายย่อมแฝงไปด้วยความงดงาม เหมือนป่าที่อุดมสมบูรณ์จะมีต้นไม้เพียงพันธุ์เดียวไม่ได้

แต่เมื่อต้องทำงานร่วมกัน ในภาวะที่ต้องแข่งกับเวลาก็อาจจะต้องละทิ้งความเห็นต่างไปบ้าง เพื่อให้ผลงานออกมามีคุณภาพที่สุดเท่าที่จะมากได้

ไม่เฉพาะความร่วมแรงร่วมใจระหว่างทีมงานที่ต้องพิสูจน์กันในยามนี้

สนามการแข่งขันในโลกภายนอกก็ช่างดุเดือดยิ่งนัก